เที่ยวกาญจนบุรี 7 น้ำตก เดินทางสะดวก เล่นน้ำได้ทั้งปี

เที่ยวกาญจนบุรี 7 น้ำตก เดินทางสะดวก เล่นน้ำได้ทั้งปี

เที่ยวกาญจนบุรีไม่ต้องมีเวลาหลายวันก็เที่ยวได้ เพราะอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครไม่ไกลมาก หรือเดินทางมาจากจังหวัดอื่นๆ ก็สะดวก เพราะเส้นทางคมนาคมมีให้หลายช่องทาง รวมไปถึงรถประจำทางก็มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถยนต์ส่วนตัวหรือรถโดยสาร มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางไม่มาก น้ำตกถือเป็นอีกไฮไลต์เด็ดประจำจังหวัดกาญจนบุรีนี้ นอกเหนือจากการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ การล่องแพ หรือเดินเล่นที่เขื่อนต่างๆ โดยในวันนี้เรามีน้ำตก 7 แห่ง ซึ่งจัดว่าใครมาเที่ยวกาญจนบุรี ไม่ควรพลาดน้ำตกเหล่านี้ เพราะมีน้ำให้เล่นตลอดทั้งปี และเส้นทางธรรมชาติ ให้เลือกเดิน รวมถึงบางแห่งมีถ้ำให้สำหรับผู้ที่ชอบความตื่นเต้น และมีโอกาสได้พบกับสัตว์ป่า แมลงแปลกๆ และธรรมชาติที่ดูสดชื่น ตั้งแต่ออกเดินทางกันเลยทีเดียว ใครที่เป็นแฟนของการเที่ยวน้ำตกแบบนี้ ไม่ควรพลาด

1.น้ำตกไทรโยคน้อย

การเดินทางไป น้ำตกไทรโยคน้อย

น้ำตกไทรโยคน้อย ตั้งอยู่ในตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวกาญจนบุรี ที่มีผู้เข้ามาแวะชมและเล่นน้ำกันอยู่ตลอดทั้งปี เนื่องจากมีธารน้ำที่ไหลตลอดเวลา แม้บางช่วงจะน้อยบ้าง แต่ก็ยังพอให้ได้นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจกันได้ทั้งครอบครัว และยังได้รับความนิยมเพราะเดินทางไปได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นทางรถไฟสาย กรุงเทพ-กาญจนบุรี-น้ำตก ใช้เวลาประมาณ 4:30 ชั่วโมง จากกรุงเทพมหานคร และสถานีจอดก็เรียกว่าเกือบจะถึงตัวน้ำตกกันเลยทีเดียว หรือจะเดินทางด้วยรถยนต์ก็สะดวกเช่นกัน ด้วยระยะทางจากตัวเมืองกาญจนบุรีเพียง 65 กิโลเมตรเท่านั้น ด้วยเส้นทางถนนสายกาญจนบุรี-ทองผาภูมิ หรือจะเป็นรถโดยสารประจำทางจากตัวเมือง ใช้เวลาประมาณ 1:50 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น รถตู้ปรับอากาศ รถปรับอากาศวีไอพี และรถไม่ประจำทาง เป็นต้น

ขบวนรถไฟชั้น 3 เริ่มต้นเดินทางตั้งแต่ สถานี กรุงเทพ (ธนบุรี) เวลาประมาณ 7:45น. ถึงสถานีน้ำตกประมาณ 12:20น. อัตราค่าโดยสารอยูที่ประมาณ 100 บาทเท่านั้น

ด้านหน้าจะมีร้านค้าขายอาหารตั้งเรียงรายไว้คอยบริการ หรือเลือกรับประทานอาหารได้ที่ร้านค้าบริเวณน้ำตก เป็นประเภท อาหารตามสั่ง ส้มตำ ไก่ย่าง มีให้เช่าเสื่อสำหรับปูนั่งพักผ่อน เพื่อชมวิวน้ำตก รวมถึงมีจุดบริการห้องอาบน้ำ หลังจากเล่นน้ำตกให้อีกด้วย บริเวณตรงข้ามน้ำตก ยังมีห้องพักไว้บริการสำหรับผู้ที่มาท่องเที่ยว หรือมาแวะที่น้ำตก ก่อนเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในเส้นทางต่อไป มีทั้งบรรยากาศติดภูเขา และแม่น้ำไว้ให้เลือก แนะนำว่าช่วงเวลาที่มาท่องเที่ยวน้ำตกไทรโยคน้อยที่สวยงามและมีน้ำตกมากที่สุด จะอยู่ในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือน สิงหาคม ไปจนถึง ตุลาคม

ระยะทางจากตัวเมืองกาญจนบุรี	ประมาณ 60 กม.
การเดินทาง	รถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง รถไฟ
ค่าเข้าสถานที่	ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด	ไม่มี

2.น้ำตกไทรโยคใหญ่

การเดินทางไป น้ำตกไทรโยคใหญ่

เป็นน้ำตกใหญ่อีกแห่งหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมจากผู้ที่ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติไม่น้อยเลยทีเดียว โดยแหล่งท่องเที่ยวกาญจนบุรีน้ำตกไทรโยคใหญ่นี้ ยังมีอีกชื่อหนึ่งที่รู้จักกันของคนในพื้นที่ชื่อ น้ำตกเขาโจน โดยมีแหล่งกำเนิดจากต้นน้ำในป่าผืนใหญ่ที่มีความสมบูรณ์ของอุทยานแห่งชาติไทรโยค มีจุดเด่นอยู่ที่มีแหล่งน้ำให้เล่นเกือบตลอดทั้งปี แต่จะมีน้ำมากในช่วงหน้าฝน ประมาณเดือน สิงหาคม ไปจนถึง พฤศจิกายน ก่อนจะเข้าสู่หน้าแล้ง ภายในอุทยานมีจุดชมวิวมากมาย รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวเดินชมธรรมชาติ เช่น สะพานแขวนข้ามแม่น้ำ เส้นทางน้ำตก และถ้ำในบริเวณใกล้เคียง เช่น ถ้ำแก้ว ซึ่งเป็นถ้ำขนาดเล็ก ที่อาจจะต้องออกแรงมุดปีนป่ายสักเล็กน้อย ภายในมีห้องโถง ที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม รวมถึงรากของต้นไทร ให้ความรู้สึกที่แปลกตา ถ้าโชคดีอาจได้พบ ค้างคาวคุณกิตติ ที่เป็นค้างคาวขนาดเล็กที่สุดในโลก แต่การเดินทางเข้าไปในถ้ำ จำเป็นจะต้องมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ หากชื่นชอบความเย็นสดชื่นของสายน้ำ เมื่อตื่นเช้าก็สามารถมาทานอาหารชมวิวสายน้ำ หรือเล่นน้ำเย็นฉ่ำชื่นใจได้ทันที หรือจะเลือกนอนด้านบน เพื่อชมวิวโค้งน้ำของแม่น้ำแควน้อยได้เช่นกัน

ระยะทางจากตัวเมืองกาญจนบุรี	ประมาณ 104 กม.
การเดินทาง	รถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง
ค่าเข้าสถานที่	มี
เวลาเปิด-ปิด	8:30 – 16:30น.

นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงกัน ยังมีบริการร้านอาหาร แพพัก แพล่องแม่น้ำ เรือเช่า และลานกางเตนท์ไว้คอยบริการ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการพักผ่อนในรูปแบบต่างๆ รวมถึงบ้านพักของอุทยาน ที่สามารถติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่อุทยานได้โดยตรง ที่ทำการอุทยานแห่งชาติไทรโยค 0-3468-6024 หรือ 08-9028-1958

การเดินทางที่สะดวกมากที่สุด เป็นเส้นทางรถยนต์ โดยเดินทางบนเส้น 323 ถนนกาญจนบุรี-ทองผาภูมิ เลยน้ำตกไทรโยคน้อยมาประมาณ 60 กิโลเมตร ซึ่งจะห่างจากตัวจังหวัดกาญจนบุรีประมาณ 104 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงเศษๆ เท่านั้น หรือถ้าเดินทางมาโดยรถไฟ สถานีน้ำตก ให้ออกมาที่ถนนใหญ่ จะมีรถโดยสารประจำทาง ค่าเข้าชมอุทยาน ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 40 บาท และค่ายานพาหนะ 30 บาท

3.น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

การเดินทางไป น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นเป็นอีกหนึ่งที่ท่องเที่ยวกาญจนบุรี ที่ใครหลายคนหลงไหล ในความเป็นธรรมชาติ และคนที่ชื่นชอบแมกไม้สีเขียว ที่ให้ความรกครึ้มตลอดทั้งปี สามารถไปแช่น้ำเย็นๆ ได้อย่างสบายใจ ขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดเป็นอันดับ 2 ในจังหวัดเลยก็ว่าได้ อีกทั้งการเดินทางก็ไม่ไกลมากนัก ห่างจากตัวจังหวัดกาญจนบุรีเพียง 110 กิโลเมตรเท่านั้น ตัวน้ำตกตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ต้นทางของน้ำตก มาจากเทือกเขาที่เป็นป่าสมบูรณ์ทางตะวันออกของอุทยาน ผ่านเส้นทางที่เป็นน้ำตกที่มีให้เล่นได้ถึง 7 ชั้น ผู้ที่เข้ามาท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปชมความสวยงามของน้ำตกทั้ง 7 ชั้นได้ในเวลาไม่นาน แต่ก็ต้องเช็คเวลาจากเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าเอาไว้หน่อย

โดยชั้นต่างๆ ประกอบด้วย ดงว่าน ม่านขมิ้น วังหน้าผา ฉัตรแก้ว ไหลจนหลง ดงผีเสื้อ และร่มเกล้า โดยใครที่ไม่อยากเดินทางขึ้นไปไกล แนะนำที่ชั้น 4 ก็มีแอ่งน้ำสวยๆ ไหลเป็นชั้นให้ชื่นชม นั่งแช่เท้าได้สบายๆ ระยะทางที่เดินขึ้นไปประมาณ 700 เมตรเท่านั้น แต่ถ้ามีเรี่ยวแรงเหลือ อยากจะเพิ่มความสนุกสนานในการผจญภัย ก็อาจจะลุยขึ้นไปถึงชั้นบนสุด ระยะทางอีกประมาณกิโลเมตรกว่าๆ เท่านั้น

การเดินทางไปในน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นนั้น ในอดีตอาจจะต้องข้ามแพขนานยนต์ และเดินทางต่อบนถนนลูกรัง เพื่อไปยังอุทยาน แต่ในปัจจุบันสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ รถประจำทางได้สะดวก พร้อมกับเส้นทางที่ลาดยางไว้อย่างดี และคุณยังได้ดื่มด่ำไปกับธรรมชาติทั้ง 2 ข้างทางไปในตัว ไม่ต้องเร่งรีบมากนัก

ค่าเข้าอุทยาน ผู้ใหญ่ 100 บาท และเด็ก 50 บาทเท่านั้น และไม่ต้องกังวลว่าจะไปแล้วจะไม่มีอาหารให้ทาน เพราะบริเวณใกล้ๆ กับที่ทำการฯ จะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ร้านอาหาร ห้องน้ำไว้คอยบริการ หรือถ้าใครต้องการจะมาพักผ่อนชื่นชมธรรมชาติ ก็มีบริการห้องพัก หรือลานกางเตนท์ของอุทยานไว้รองรับ อยู่ที่ประมาณ 900บาทต่อคืน โดยพื้นที่กางเตนท์สามารถเข้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมห้องสุขา ที่มีอยู่มากมายอีกด้วย

ระยะทางจากตัวเมืองกาญจนบุรี	ประมาณ 110 กม.
การเดินทาง	รถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง
ค่าเข้าสถานที่	มี
เวลาเปิด-ปิด	8:30 – 16:30น.

4.น้ำตกเอราวัณ

การเดินทางไป น้ำตกเอราวัณ

น้ำตกที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุด และมีจุดเล่นน้ำที่ใสสีเขียว กับความชุ่มชื้น ที่ยังดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับผู้ที่แสวงหาความสดชื่น เพื่อความผ่อนคลายความตึงเครียดได้ดี จุดเด่นคือ สามารถมาเที่ยวได้ในทุกฤดู แม้จะเป็นหน้าแล้ง อากาศร้อนก็ยังมีน้ำให้เล่นได้ ที่สำคัญเดินทางไม่ไกลจากตัวจังหวัดกาญจนบุรีมากนัก ด้วยระยะทางเพียง 120 กิโลเมตรเท่านั้น ตั้งอยู่ใน ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เส้นทางมาทางเดียวกับน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น การเดินทางยังคงต้องอาศัยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก แต่ก็พอมีรถประจำทางจากขนส่งจังหวัด กาญจนบุรี-เอราวัณ ในบริเวณใกล้เคียง ที่ต่อรถเข้ามาถึงตัวน้ำตกได้ไม่ยาก โดยน้ำตกเอราวัณนี้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งภายในคุณจะได้เห็นถึงพรรณพืชขนาดใหญ่ และต้นไม้หายากหลายชนิด รวมไปถึงบรรดาสัตว์ต่างๆ หากโชคดี ก็อาจจะได้พบกับสัตว์ป่า ที่อยู่ตามต้นไม้หลายชนิด และที่เป็นไฮไลต์คือ ปลาที่แหวกว่ายให้เห็นกันแบบเพลินตา

หรือถ้าชอบแนวผจญภัย ก็ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้เดินเล่นพอได้เหงื่อออก เช่น เส้นทางธรรมชาติป่าไผ่, เขาหินล้านปี, ป่าดิบแล้งม่องไล่เป็นต้น เรียกว่าแต่ละแห่งก็มีความตื่นเต้น และความสวยงามต่างกันออกไป หรือถ้าชอบการเดินถ้ำ ก็มีเส้นทางสู่ถ้ำพระธาตุ ที่ด้านในมีความสวยงามจากหินย้อยในรูปแบบต่างๆ และสัตว์แมลงหายากบางชนิด ที่อาจพบได้ในถ้ำอีกด้วย หรือถ้าเดินจนเหนื่อย อากาศร้อน อยากไปแช่น้ำตกผ่อนคลาย ก็เลือกไปเล่นน้ำตามชั้นต่างๆ ของน้ำตกที่มีถึง 7 ชั้นด้วยกัน น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา สีเขียวฟ้าสดใส แช่ได้อย่างฉ่ำชื่นใจ หรือแหวกว่ายไปกับฝูงปลาก็ยังได้

ภายในบริเวณน้ำตกเอราวัณ ยังมีบริการต่างๆ เอาไว้รองรับนักท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ลานจอดรถ ที่รองรับได้เยอะในหน้าเทศกาล หรือลานกางเตนท์บนพื้นที่ขนาดใหญ่ ใกล้ชิดกับธรรมชาติสุดๆ ทั้งวิวภูเขาและริมแม่น้ำ หรือจะเป็นห้องพักในราคาหลักร้อย และส่วนจัดกิจกรรม เพื่อรองรับการสัมมนาและการเข้าค่ายเป็นต้น

ระยะทางจากตัวเมืองกาญจนบุรี	ประมาณ 120 กม.
การเดินทาง	รถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง
ค่าเข้าสถานที่	มี
เวลาเปิด-ปิด	8:30 – 16:30น.

5.น้ำตกจ๊อกกระดิ่น

การเดินทางไป น้ำตกจ๊อกกระดิ่น

อาจไม่ได้เป็นน้ำตกที่ดูกว้างใหญ่อลังการหรือมีหลายชั้น แต่น้ำตก “จ๊อกกระดิ่น” ก็สร้างความสดชื่นแก่ผู้ที่เดินทางมาถึงได้ไม่น้อย โดยเฉพาะคนที่ชอบความท้าทาย เพราะเส้นทางมาน้ำตกแห่งนี้ ก็ไม่ได้ง่ายนัก ซึ่งหากพอมีเวลาหลังจากที่เที่ยวในระแวกใกล้เคียงมาแล้ว เช่น บ้านปิล็อก บ้านอิต่อง หรือไปทองผาภูมิ อยากจะแวะก่อนจะกลับ หรือคนที่ไม่ชอบความวุ่นวายมากนัก ที่นี่ยังพอมีให้สัมผัสได้ แล้วค่อยล่องกลับไปแวะเที่ยวตามรายทางต่อไป ก่อนกลับกรุงเทพฯ กับเส้นทางที่มาสะดวก ระยะทางห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 209 กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางหลัก 323 จากตัวเมืองกาญจนบุรี ก่อนแยกซ้ายไป 3272 และมุ่งสู่น้ำตก ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ อย่างไรก็ดีแนะนำว่า หากจะมุ่งไปน้ำตกด้วยรถยนต์ส่วนตัว ควรจะเป็นรถยนต์ที่พอจะลุยได้ เพราะเส้นทางเป็นทางหินกรวดและลูกรัง ส่วนเส้นทางจะเป็นการเดินทางไปยัง อ.ทองผาภูมิ แล้วเลี้ยวไปยังบ้านปิล็อก ในช่วงนี้ให้ใช้ความเร็วและการเดินทางอย่างระมัดระวังสักหน่อย เพราะทางแคบและโค้งค่อนข้างเยอะนั่นเอง ก็จะมาถึงตัวน้ำตกจ๊อกกระดิ่น ได้แล้ว โดยมีลานจอดรถยนต์ให้พอสมควร

บริเวณตัวน้ำตกจะเป็นลำธารน้ำใส มีน้ำตลอดทั้งปี แต่มากน้อยก็ขึ้นอยู่กับในช่วงเวลานั้นๆ ถ้าอยากได้ความสดชื่น สายน้ำตกที่แรง เล่นน้ำได้สนุก ในหน้าฝนน่าจะเป็นช่วงที่ดีที่สุด แต่ถ้าเป็นหน้าแล้งก็จะน้อยลง แต่ก็ทำให้เดินเข้าไปใกล้น้ำตกได้ง่ายขึ้น โดยจะมีก้อนหินใหญ่ ให้ปีนป่ายขึ้นไปยังตัวน้ำตกได้ตลอดเส้นทาง น้ำตกเป็นแบบชั้นเดียว ไหลมาตามซอกผา ลงมายังแอ่งน้ำด้านล่างที่มีสีฟ้าครามในยามที่มีน้ำเยอะ โดยมีความสูงราวๆ 34 เมตร และมีความยาวของเส้นทางน้ำประมาณ 5 กิโลเมตร และด้วยการเป็นน้ำที่ไหลมาจากแหล่งของพื้นที่เหมืองในหมู่บ้าน จึงเหมือนเป็นการได้อาบน้ำแร่ไปในตัว อย่างไรก็ดีในจุดเล่นน้ำบางช่วงจะลึกถึง 4 เมตร หากมากับเด็กๆ ก็อาจจะต้องคอยดูแลให้ปลอดภัย

การเข้ามายังน้ำตกจ๊อกกระดิ่น มีค่าเข้าชม 40 บาท ส่วนรถยนต์อีก 30 บาท เมื่อเดินทางเข้ามาถึง ก็สามารถเดินข้ามสะพาน ก็จะมองเห็นน้ำตก ให้ถ่ายภาพเซลฟี่กับทางน้ำตกสีขาวเป็นแบ็คกราวน์ด้านหลังได้สวยงามทีเดียว

ระยะทางจากตัวเมืองกาญจนบุรี	ประมาณ 209 กม.
การเดินทาง	รถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง
ค่าเข้าสถานที่	มี
เวลาเปิด-ปิด	8:30 – 16:30น.

6.น้ำตกผาตาด

การเดินทางไป น้ำตกผาตาด

ใครที่เดินทางมายังจังหวัดกาญจนบุรี และมีเป้าหมายไปทางอำเภอทองผาภูมิ แนะนำว่ามี 2 จุดที่คุณไม่ควรพลาด หากคุณชอบความสดชื่นของธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จากสี่แยกหินดาด เข้ามาเล็กน้อย จะมีน้ำพุร้อนหินดาด แหล่งพักกายที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งคนไทยและต่างประเทศ ด้วยบ่อน้ำพุร้อน ที่คู่กันไปกับลำธารใสไหลเย็น ให้ได้ผ่อนคลาย เมื่อแช่น้ำพุร้อน ก็ลงมาหย่อนตัวลงในธารน้ำเย็นๆ ก่อนจะวนกลับไปแช่ใหม่อีกครั้ง แต่ถ้าอยากจะทิ้งกายลงไปในน้ำตกอันเย็นฉ่ำชื่นใจ แนะนำว่าให้ขับรถเข้าไปอีกประมาณ 8 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตกผาตาด แหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของกาญจนบุรี หนึ่งในหลายน้ำตก ที่มีความสวยงาม ลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ 3 ชั้น ไหลมาเป็นทางน้ำดูตระการตา โดยเฉพาะในหน้าฝน ที่มีปริมาณน้ำมาก โดยเฉพาะในชั้นที่ 3 ที่เดินสูงขึ้นไป จะเป็นทางน้ำขนาดใหญ่ ให้บรรยากาศร่มรื่น เหมาะกับการไปเดินชมธรรมชาติ แต่น้ำอาจจะแรงไปบ้างในบางช่วง จึงต้องใช้ความระมัดระวัง ส่วนถ้าใครอยากจะเล่นน้ำแบบจริงจัง แนะนำชั้นที่ 1 และ 2 ที่มีแอ่งน้ำให้ลงไปแช่ได้ตามอัธยาศัย เส้นทางระหว่างเดินไปในแต่ละชั้น ยังดูเป็นธรรมชาติ ด้วยป่าไม้เขียวครึ้มตลอดเส้นทาง ขนานไปกับธารน้ำตกขนาดใหญ่

การเดินทางมาที่น้ำตกผาตาด ค่อนข้างสะดวกกว่าในที่อื่นๆ เพราะเส้นทางไม่หนักหนาสำหรับ รถยนต์ทั่วไป หรือจักรยานยนต์ ด้วยระยะทางที่ห่วงจากตัวจังหวัดกาญจนบุรีเพียง 129 กิโลเมตรโดยประมาณเท่านั้น และยังเดินเท้าเข้าไปไม่ไกล ด้านหน้าที่ทำการยังพอมีร้านอาหาร เครื่องดื่มไว้คอยบริการ ไม่ว่าจะเป็นอาหารตามสั่ง ส้มตำ ไก่ย่าง ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 100 บาท และเด็ก 50 บาท เปิดให้เข้าตั้งแต่เวลา 8:30 – 16:30น. โดยประมาณ

ระยะทางจากตัวเมืองกาญจนบุรี	ประมาณ 129 กม.
การเดินทาง	รถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง
ค่าเข้าสถานที่	มี
เวลาเปิด-ปิด	8:30 – 16:30น.

7.น้ำตกเกริงกระเวีย

การเดินทางไป น้ำตกเกริงกระเวีย

น้ำตกเกริงกระเวีย เป็นน้ำตกเล็กๆ เหมาะกับการแวะระหว่างทางเที่ยวกาญจนบุรี ให้ได้ไปชมความงามของธารน้ำที่กว้างและไหลมายังแอ่งน้ำ ให้ได้พักผ่อนหย่อนใจ หลังจากเดินทางมาจากจุดต่างๆ โดยอาจจะแวะเป็นแหล่งเที่ยวสุดท้าย ก่อนจะยิงยาวกลับบ้านได้ ด้วยระยะทางประมาร 175 กิโลเมตร จากตัวเมืองกาญจนบุรี บนเส้นทาง 323 มุ่งหน้าทองผาภูมิ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม สามารถเดินทางด้วยการขับรถยนต์ส่วนตัว หรือนั่งรถโดยสารสายกาญจนบุรี-สังขละบุรี มาถึงน้ำตกได้ ใช้เวลาประมาณ 2.30 – 3 ชั่วโมง มาถึงแล้วก็เดินเข้าถึงน้ำตกได้ไม่ไกลนัก ผ่านเส้นทางธรรมชาติที่ร่มรื่น มีจุดแวะด้วยกัน 2 จุด มีแอ่งน้ำพอให้ได้แช่น้ำเย็นๆ กันอย่างจุใจ ภายในมีบ้านพัก ห้องน้ำให้ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำอยู่ครบครัน

เมื่อเล่นเสร็จแล้ว เดินผ่านทางเดินไม้ที่ทอดยาวจากตัวน้ำตกออกมา ยังเป็นจุดถ่ายภาพสวยๆ เซลฟี่เอาไปอวดเพื่อนๆ ได้มุมสวยๆ ของธารน้ำที่ไหลผ่านสะพานอีกด้วย ออกมาด้านนอกมีร้านอาหารไว้บริการ รวมถึงร้านของฝากติดไม้ติดมือก่อนกลับบ้าน หรือจะนั่งชิลๆ ชมบรรยากาศในร้านกาแฟ ที่สามารถมองเห็นน้ำตกอยู่ไม่ไกล ในช่วงพักผ่อนวันหยุดแบบนี้ ถ้ายังไม่มีเที่ยวใดในระหว่างการเดินทางไปกาญจนบุรี น้ำตกเกริงกระเวีย ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยว ที่พักผ่อนของคุณได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

ระยะทางจากตัวเมืองกาญจนบุรี	ประมาณ 175 กม.
การเดินทาง	รถยนต์ส่วนตัว
ค่าเข้าสถานที่	มี
เวลาเปิด-ปิด	8:30 – 16:30น.

เปรียบเทียบน้ำตก จังหวัดกาญจนบุรี

	1.น้ำตกไทรโยคน้อย	2.น้ำตกไทรโยคใหญ่	3.น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น	4.น้ำตกเอราวัณ	5.น้ำตกจ๊อกกระดิ่ง	6.น้ำตกผาตาด	7.น้ำตกเกริงกะเวีย
ระยะทางจากตัวเมืองกาญจนบุรี	60 กม.	104 กม.	110 กม.	120 กม.	209 กม.	129 กม.	175 กม.
การเดินทาง	รถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง รถไฟ	รถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง	รถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง	รถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง	รถยนต์ส่วนตัว	รถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง	รถยนต์ส่วนตัว
ค่าเข้าสถานที่	ไม่มี	มี	มี	มี	มี	มี	มี
เวลาเปิด-ปิด	ไม่มี	8:30-16:30น.	8:30-16:30น.	8:30-16:30น.	8:30-16:30น.	8:30-16:30น.	8:30-16:30น.

แหล่งท่องเที่ยวกาญจนบุรี ที่เป็นน้ำตกนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของจังหวัดกาญจนบุรี และเป็นจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายคนให้หลั่งไหลกันเข้ามาที่นี่ ด้วยความเป็นธรรมชาติที่ยังสดชื่น โดย 7 น้ำตกที่เราแนะนำนี้ จะเป็นแหล่งที่เหล่านักกางเตนท์ ที่ชอบความเป็นธรรมชาติ และการเดินทางที่ไม่ยุ่งยากเกินไปนัก โดยมีพื้นที่ให้บริการต่างๆ ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร พื้นที่กางเตนท์ ทางเดินธรรมชาติ รวมถึงห้องน้ำก็ตาม และการเดินทางประมาณ 1-3 ชั่วโมงจากตัวเมืองกาญจนบุรี และถนนที่ได้รับการปรับปรุงมาตลอด ก็ช่วยลดเวลาการเดินทางไปได้มากทีเดียว สำหรับคนที่สนใจอยากจะเดินทางไปเที่ยวในช่วงนี้ อาจจะโทรสอบถามเรื่องที่พัก และการเปิดบริการในบางอุทยานให้เรียบร้อย ก่อนจะไปออกไปเที่ยวกันด้วยก็จะเป็นการดี ขอให้มีความสุขกับทริปเที่ยวในวันหยุดพักผ่อนกันมากๆ ครับ