FIFA World Cup balls : วิวัฒนาการของลูกฟุตบอลกว่า 90 ปี [ยุคใหม่]

กลับมาอีกครั้งครับกับบทความเกี่ยวกับ “FIFA World Cup balls” หรือลูกฟุตบอลที่เคยใช้ใน World Cup แต่ละครั้งที่ผ่านมา ซึ่งในบทความนี้เป็นตอนสุดท้ายแล้ว เรามาดูใน World Cup ยุคใหม่กันดีกว่า

FIFA World Cup balls หรือลูกฟุตบอลที่ใช้ในฟุตบอลโลก

ปี 1994 – ลูกฟุตบอล Questra (Host – United States)

World Cup 1994 เป็นครั้งที่แฟนบอลบ้านเราต้องอดตาหลับขับตานอนกว่าปกติเนื่องจากแข่งที่ประเทศ United States ซึ่งเวลาห่างจากบ้านเรากว่า 12 ชั่วโมง

“Questra” คือชื่อของลูกฟุตบอลใน World Cup ครั้งนั้น ซึ่งมีที่มาจาก “Quest for the star” เพราะถูกผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยีอวกาศ โดยเพิ่มชั้น Polyurethane เข้าไปเพื่อทำน้ำหนักให้เบาลง เรียกได้ว่าเป็นฝันหวานของกองหน้าและฝันร้ายของผู้รักษาประตูเลยทีเดียว!

การแข่งขัน World Cup 1994 จบด้วยการเป็นแชมป์ของทัพแซมบ้า Brazil ซึ่งเอาชนะ Italy ไปได้ด้วยการดวลจุดโทษ ซึ่งจะว่าไปแล้วหนึ่งในเหตุการณ์ใน World Cup ครั้งนั้นยังคงถูกพูดถึงกันอยู่ทุกวันนี้

ในการดวลจุดโทษ Italy เป็นฝ่ายยิงก่อนตามด้วย Brazil และเมื่อยิงกันไปฝ่ายละ 4 คนแล้ว สกอร์เป็น Brazil นำอยู่ 3-2 โดยคนสุดท้ายของ Italy คือกองหน้าที่โด่งดังเป็นพลุแตกในยุคนั้นอย่าง “เจ้าเปียร์ทองคำ” Roberto Baggio ซึ่งต้องยิงให้เข้าก่อนเพื่อต่อลมหายใจให้กับ Italy ไปลุ้นกันต่อ

ทันทีที่ผู้ตัดสินเป่านกหวีด Baggio บรรจงวิ่งเข้าไปยิงด้วยเท้าขวา แต่ผลปรากฏว่าลูกบอลโด่งข้ามคานไปไกลส่งผลให้ Brazil คว้าแชมป์โลกไปครองได้สำเร็จ ซึ่งช็อตสะเทือนใจก็คือจังหวะที่กล้องจับไปที่ Baggio หลังจากยิงพลาด โดยเป็นสีหน้าและแววตาที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูก….

ปี 1998 – ลูกฟุตบอล Tricolore (Host – France)

เรียกได้ว่ามาไกลมากสำหรับ FIFA World Cup balls ถ้านับตั้งแต่การใช้หนังแท้สีน้ำตาลสู่สีขาวดำและมาถึง “Tricolore” ใน World Cup 1998 เนื่องจากเลือกใช้สีของธงชาติ France เจ้าภาพ ประดับไปด้วยการสร้างลายน้ำลงบนแบบพิมพ์อย่างอลังการ

สีทั้งหมดที่บรรจงแต่งแต้มลงไปให้เป็นสีสันบนลูกฟุตบอลมีอยู่ 3 สีก็คือน้ำเงิน แดง ขาวเหมือนกับธงชาติของประเทศเจ้าภาพ France นอกจากนี้ยังมีการเสริมชั้นโฟมเข้าไปในลูกฟุตบอลเพื่อให้มีเกิดความนุ่มและสามารถพุ่งไปได้เร็วยิ่งขึ้น

WorldCup 1998 เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ประเทศเจ้าภาพประสบความสำเร็จ ทีมชาติ France คว้าแชมป์ในครั้งนั้นไปได้อย่างพลิกความคาดหมายด้วยการเอาชนะ Brazil ทีมเต็งหนึ่งไปได้ 3-0 และถือว่าเป็นแชมป์โลกสมัยแรกของพวกเขา

นักเตะที่แจ้งเกิดใน World Cup ครั้งนั้นล้วนเป็น SuperStar ในเวลาต่อมาอย่าง Zinedine Zidane, Thiery Henry, David Trezeguet เป็นต้น

ปี 2002 – ลูกฟุตบอล Fevernova (Host – Japan, South Korea)

World Cup 2002 ถือว่าจัดในผืนแผ่นดิน Asia เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์นั่นก็คือประเทศ Japan และ South Korea และยังถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีการจัดการแข่งขันด้วยการมีเจ้าภาพร่วมอีกด้วย

ลูกฟุตบอลประจำการแข่งขันในครั้งนี้คือ “Fevernova” ซึ่งเต็มไปด้วยเทคโนโลยีอย่างแท้จริงพร้อมกับการนำรูปแบบการผลิตใหม่มาใช้ทั้งหมด โดยถูกออกแบบให้มีน้ำหนักเบาเป็นอย่างมากพร้อมเคลื่อนที่ได้อย่างแม่นยำกว่าเดิมหลายเท่าตัวและใช้สัญลักษณ์สามเหลี่ยมสีทองแดงและเขียวประดับบนลูกฟุตบอล

จากการได้สัมผัสจริงของนักเตะก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น มีทั้งมุมมองของผู้รักษาประตูทีมชาติ Italy อย่าง Gianluigi Buffon กล่าวว่าลูกฟุตบอลลูกนี้มันเคลื่อนที่อย่างบ้าคลั่ง!! ในขณะที่กองกลางสุดหล่อของทีมชาติ England อย่าง David Beckham บอกว่าเจ้า Fevernova นี้มันช่างสั่งได้ดั่งใจ!!!

ส่วนการแข่งขันในครั้งนั้น ทีมที่กลับมาทวงความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้งหนึ่งก็คือ Brazil ที่นำโดย “Triple R” อย่าง Rivaldo, Ronaldinho และ Ronaldo สามารถเอาชนะ Germany ไปได้ในรอบชิงชนะเลิศ 2-0

ปี 2006 – ลูกฟุตบอล Teamgeist (Host – Germany)

แน่นอนว่าในเมื่อประเทศบ้านเกิดของแบรนด์ Adidas โคจรกลับมาเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง ความพิเศษย่อมต้องมาพร้อมกันไปด้วยกับ “Teamgeist”

Teamgeist ถูกยกให้เป็น FIFA World Cup balls ที่ดีที่สุดตั้งแต่มีการแข่งขัน World Cup มาเลยก็ว่าได้ ออกแบบด้วยการนำชิ้นส่วน 14 ชิ้นเชื่อมต่อเข้าด้วยกันและลดการใช้รอยต่อของลูกฟุตบอลที่เดิมใช้อยู่ 32 ชิ้น เพื่อให้มีความกลมและความเร็วที่มากขึ้น ถือว่าแสดงออกถึงความเป็นชาติ Germany อย่างแท้จริง

ถึงแม้ว่าจะมีหลายฝ่ายพูดถึง Teamgeist ในทางลบอยู่บ้างในเรื่องการเป็น “Knuckleball” หรือลูกฟุตบอลที่ไม่สามารถคาดเดาทิศทางได้เลย แต่โดยรวมถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

ลวดลายเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของลูกฟุตบอลลูกนี้ช่างกลมกลืนและแฝงไปด้วยความสามัคคี ด้วยชื่อ “Teamgeist” ที่แปลเป็นภาษา Germany ได้ว่า “ทีมสปิริต”

นอกจากนี้ Adidas ยังเพิ่มความพิเศษด้วยการใส่ชื่อทีมและแมทซ์การแข่งขันลงบนลูกฟุตบอล รวมถึงออกแบบ FIFA World Cup balls แบบพิเศษใช้เฉพาะนัดชิงชนะเลิศนั่นก็คือ “Teamgeist Berlin”

โดยการแข่งขัน World Cup 2006 ชาติที่คว้าแชมป์ไปครองก็คือทีมชาติ Italy ยุคที่เรียกได้ว่าดีที่สุดของพวกเขาแล้วก็ว่าได้โดยการนำทัพของ Gianluigi Buffon, Fabio Cannavaro, Andrea Pirlo, Gennaro Gattuso, Francesco Totti, Alessandro Del Pireo เป็นต้น

พวกเขาเอาชนะ France ในนัดชิงชนะเลิศด้วยการดวลจุดโทษไปได้ ส่วนเจ้าภาพ Germany ต้องอกหักตกรอบรองชนะเลิศไป

ปี 2010 – ลูกฟุตบอล Jabulani (Host – South Africa)

ประโยคที่ว่า “เทคโนโลยีมาพร้อมกับคำวิพากษ์เสมอ” น่าจะเห็นภาพได้ชัดที่สุดสำหรับ “Jabulani” ลูกฟุตบอลที่ใช้ใน World Cup 2010 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จัดในทวีป Africa

Adidas พยายามพัฒนาการผลิตลูกฟุตบอลหลังจากที่ใช้ชิ้นส่วนแค่ 14 ชิ้นใน Teamgeist ให้เหลือเพียง 8 ชิ้นเพื่อให้ลูกฟุตบอลมีความกลมมากขึ้น แต่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากเหล่าผู้รักษาประตูที่ไม่สามารถคาดเดาทิศทางลูกฟุตบอลได้เลย

Joanesburgo – Seleção brasileira estreia na Copa do Mundo de 2010 contra a Coreia do Norte

Michael Ballack และ Frank Lampard นักเตะในสังกัตของ Adidas บอกว่า Jabulani เป็นลูกฟุตบอลที่มีประสิทธิภาพ แต่ผู้รักษาประตูอย่าง Julio Cesar กับ Iker Casillas บอกว่ามันเป็นลูกฟุตบอลที่หาซื้อได้ตาม Supermarket มันไม่ใช่ FIFA World Cup balls!!!

เรื่องถึงองค์การ Nasa ที่เข้ามาอธิบายถึงกระบวนการทำงานของ Jabulani ว่าจะเริ่มส่ายในอากาศด้วยความเร็วที่สูงกว่าลูกฟุตบอลลูกอื่นๆ เนื่องจากผิวสัมผัสที่เรียบขึ้น มันเต็มไปด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่เหนือกว่าเดิมมาก โดยจุดเด่นของมันอยู่ที่การผลิตภายใต้แนวคิด “Grip n’ Groove” คือมีเกร็ดและร่องบนผิวลูกบอลทำให้การปล่อยผ่านจากเท้าสู่อากาศเต็มไปด้วยพลัง

ชาติที่คว้าแชมป์ไปได้ใน World Cup 2010 ก็คือ Spain ซึ่งเอาชนะ Netherlands ไปได้ในนัดชิงชนะเลิศจากการยิงในช่วงต่อเวลาพิเศษของ Andrés Iniesta ในนาทีที่ 116

ปี 2014 – ลูกฟุตบอล Brazuca (Host – Brazil)

หลังผ่านการโหวตของแฟนๆชาว Brazil ทั่วประเทศ ผลปรากฏว่าแฟนบอลเกือบล้านเสียงต่างโหวตให้ “Brazuca” เป็นชื่อลูกฟุตบอลรุ่นใหม่ใน FIFA World Cup balls ครั้งนั้น

Brazuca เป็นชื่อที่มีสองความหมาย โดยความหมายแรกจะเป็นการสื่อถึงคน Brazil ที่ไปใช้ชีวิตในต่างแดน ซึ่งรวมถึงนักฟุตบอลหลายๆคน ขณะที่อีกความหมายเป็นการบรรยายถึงความภาคภูมิใจในวิถีชีวิตและความเป็นประชาชนชาว Brazillian นั่นเอง

นอกจากนี้ Brazuca ยังถือว่าเป็นลูกฟุตบอลที่ Adidas ทำการทดสอบมากที่สุด เนื่องจากส่งให้สมาคมฟุตบอลชาติต่างๆในโลกส่งต่อไปยังนักฟุตบอลได้ทดสอบด้วยตัวเองอยู่ 6 เดือนเต็ม เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาเหมือนเจ้า Jabulani เมื่อ World Cup 2010

Germany คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จด้วยการเอาชนะ Argentina ในช่วงต่อเวลาพิเศษจากการยิงของ Mario Gotze ในนาทีที่ 113

ปี 2018 – ลูกฟุตบอล Telstar 18 (Host – Russia)

ใน World Cup 2018 นี้ Adidas ใช้ลูกฟุตบอล “Telstar 18” ซึ่งถือเป็นการนำรุ่น Classic ของพวกเขากลับมาใช้อีกครั้งนั่นก็คือ Telstar ซึ่งเป็นลูกฟุตบอลลูกแรกของ Adidas ที่ใช้ใน World Cup เมื่อปี 1970 และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1994 ที่พวกเขากลับมาใช้สีขาว-ดำบนลูกฟุตบอล

ชาติที่คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จก็คือ France ด้วยการเอาชนะชาติที่หักปากกาเซียนเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศอย่าง Croatia ไปได้ 4-2 ด้วยการทำเข้าประตูตัวเองของ Mario Mandžukić ตามมาด้วย Antoine Griezmann, Paul Pogba และ Kylian Mbappé

บทความที่น่าสนใจ : https://www.thekooroo.com/content/

Leave a Reply