FIFA World Cup balls : วิวัฒนาการของลูกฟุตบอลกว่า 90 ปี [ยุคแรก]

เมื่อสมัยครั้งผู้เขียนยังเด็กๆ เวลาเตะบอลเล่นกับเพื่อน แน่นอนว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ “ลูกฟุตบอล (Ball)” มันคืออุปกรณ์หลักที่สุดแล้วในการเตะฟุตบอล ซึ่งในสมัยนั้นเด็กฐานะยากจนคนหนึ่งกับการได้เตะฟุตบอลที่ทำจากหนังนี่คือที่สุดของที่สุด!!! เพราะปกติซื้อแต่ลูกบอลพลาสติกลูกละ 10 บาทเตะเล่นกับเพื่อนๆ

ถ้าย้อนความไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ยังจำได้ว่าลูกบอลหนังลูกแรกที่ได้เตะในชีวิตคือลายที่เพื่อนๆคุ้นตากันแน่นอน ลายห้าเหลี่ยมสีขาวสลับดำอยู่รอบลูกบอลเป็นอะไรที่ Classic สุดๆ เตะจนหนังยุ่ยหนังขาดตามกาลเวลา แต่ก็มีความสุขทุกครั้งที่ได้นึกถึง

นอกเรื่องกันมาพอประมาณ บทความนี้ผู้เขียนตั้งใจและอยากนำเสนอวิวัฒนาการของลูกฟุตบอลที่ใช้ในการเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (FIFA World Cup balls) ที่ต้องย้อนไปตั้งแต่เมื่อ 90 ปีที่แล้ว

FIFA World Cup balls หรือลูกฟุตบอลที่ใช้ในฟุตบอลโลก

ปี 1930 – ลูกฟุตบอล Tiento & T-Model (Host – Uruguay)

ในภาพเพื่อนๆจะเห็นคล้ายซาก Fossil ของลูกอะไรสักอย่าง….. ถูกต้องแล้วครับ นี่คือ FIFA World Cup balls ลูกแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งใช้ในการแข่งขัน World Cup 1930

ลูกบอลสุด Classic ลูกนี้เป็นลูกบอลหนังที่ผลิตโดยประเทศเจ้าภาพนั่นก็คือ Uruguay เป็นลูกบอลแบบ official ที่ใช้ในนัดชิงชนะเลิศที่ Uruguay ชาติเจ้าภาพยัดเยียดความปราชัยให้กับ Argentina ซึ่งถือว่าเป็นชาติแรกที่คว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ

Tiento & T-Model มีความ Classic ตรงที่ว่าใช้การเย็บมือ มีน้ำหนักมากกว่าลูกฟุตบอลที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันค่อนข้างมาก และในสมัยนั้นก็ไม่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการสำหรับลูกฟุตบอลลูกนี้

โดยในศึก World Cup 1930 นัดชิงชนะเลิศได้เกิดเหตุการณ์ปัญหาขึ้นนิดหน่อย เนื่องจาก ณ วันนั้นยังไม่มีการเลือกใช้ลูกฟุตบอลลูกใดเป็นพิเศษสำหรับการแข่งขัน ในครั้งนั้นมีลูกบอลที่ใช้อยู่ทั้งหมด 2 แบบคือ Tiento กับ T-Model ซึ่งมีการถกเถียงกันระหว่าง Argentina กับ Uruguay ว่าจะใช้ลูกบอลแบบใดแข่งขันในนัดชิงชนะเลิศ เมื่อหาทางออกกันไม่ได้ก็ให้ใช้แบบละครึ่งผลัดกันไปเลย!!!

เริ่มที่ครึ่งแรกใช้ลูกฟุตบอล Tiento ผลปรากฏว่า Argentina นำอยู่ 2-1 แต่พอลงสนามในครึ่งหลังเปลี่ยนมาใช้เป็น T-Model ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่า ผลปรากฏว่า Uruguay รัวยิงได้สามประตูรวดจาก Pedro Cea, Santos Iriarte และ Hector Castro ทำให้คว้าแชมป์โลกสมัยแรกไปครอง

หลังจากวันนั้นสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (Federation International of Football Association : FIFA) ได้ตั้งบรรทัดฐานใหม่ขึ้นมาสำหรับกีฬาฟุตบอลว่าจะต้องใช้ลูกฟุตบอลแบบเดียวกันเท่านั้นในการแข่งขัน

ปี 1934 – ลูกฟุตบอล Federdale 102 (Host – Italy)

“เฟเดเรล 102” (Federdale 102) คือชื่ออย่างเป็นทางการสำหรับลูกฟุตบอลที่ใช้ในการแข่งขัน World Cup 1934 ที่ประเทศ Italy และแน่นอนว่าเจ้า Federdale 102 ลูกนี้พวกเขาเป็นผู้ผลิต

Italy ได้ปฏิวัติวงการฟุตบอลด้วยการเลือกลูกฟุตบอลที่มีหน้าตาเปลี่ยนไปจากเดิมพอสมควร โดย Federdale 102 มีผิวสัมผัสที่เกลี้ยงเกลากว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดและทำให้การ Control ลูกบอลเป็นไปอย่างสนุกสนาน

สำหรับ World Cup 1934 เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ประเทศเจ้าภาพคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ โดย Italy เป็นฝ่ายเอาชนะ Czechoslovakia ไป 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษจากการทำประตูของ Angelo Schiavio ในนาทีที่ 95

ปี 1938 – ลูกฟุตบอล Allen (Host – France)

เมื่อประเทศเจ้าภาพอย่าง France เป็นเมืองแห่ง Fashion เพราะฉะนั้นจึงลงทุนออกแบบลูกฟุตบอลใหม่ทั้งหมดพร้อมตั้งชื่อว่า “อัลแล็ง” (Allen) มาพร้อมผิวสัมผัสที่ทำได้ดีขึ้นกว่าเดิมและโค้งมนเป็นวงกลมกว่า 95%

ซึ่ง Allen นี่เองถือว่าเป็นแบรนด์แรกที่ได้สิทธิพิเศษรับอนุญาตให้นำชื่อแบรนด์ของตนเองจารึกไปในลูกฟุตบอลได้ นอกจากนั้นยังมีคำว่า Coupe du Monde และ Allen Official ปรากฏอยู่บนลูกฟุตบอลอีกด้วย

ชาติที่คว้าแชมป์ไปครองได้ใน World Cup 1938 ยังคงเป็น Italy ที่ยังคงครองความยิ่งใหญ่อย่างต่อเนื่องคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน โดยการเอาชนะ Hungary ไป 4-2 โดย SuperHero ของพวกเขาก็คือ Gino Colaussi และ Silvio Piola ที่เหมาคนละสองประตูในนัดชิงชนะเลิศ

ปี 1950 – ลูกฟุตบอล DUPLO T (Host – Brazil)

ศึก World Cup เว้นว่างไป 12 ปีเนื่องจากติดปัญหาในการก้าวข้ามผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 (World War II) โดยในปี 1950 ประเทศ Brazil รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพและการแข่งขันในครั้งนี้ถือว่าเป้นก้าวสำคัญของวงการลูกฟุตบอล

การแข่งขัน World Cup 1950 ได้นำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในการผลิตลูกฟุตบอล จึงได้เจ้า “ซูเปอร์ ดูโปล ที” (DUPLO T) ออกมา โดยถือว่าเป็นลูกฟุตบอลสีขาวลูกแรกที่ใช้ในการแข่งขัน World Cup

แรกเริ่มเดิมทีลูกฟุตบอลลูกนี้ได้เริ่มทดลองใช้ตั้งแต่ปี 1930 ในลีกของ Argentina กับบริษัทที่มีชื่อว่า Superval ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น Superball

เพราะเหตุใดถึงกล่าวว่า DUPLO T คือก้าวสำคัญของพัฒนาการลูกฟุตบอล…. ก็เพราะ DUPLO T ลูกนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการใช้การสูบลมเหมือนกับลูกบอลในปัจจุบัน และยังเป็นลูกแรกที่มีการผลิตแบบไม่มีช่องว่างระหว่างหนังแถมเติมลมโดยใช้หัวเข็มเจาะเข้ารูเล็กๆเพื่อเติมลมอีกด้วย

ผลการแข่งขันในครั้งนี้ Uruguay ทวงความยิ่งใหญ่ที่หายไปกว่า 20 ปีได้ ด้วยการเฉือนเอาชนะ Brazil เจ้าภาพไป 2-1 โดยการทำประตูจาก Juan Alberto Schiaffino และ Alcides Ghiggia

ปี 1954 – ลูกฟุตบอล Swiss World Champion (Host – Switzerland)

ลูกฟุตบอลใน World Cup 1954 ถือว่าเป็นสีสันที่แปลกตาอย่างน่าสนใจ โดยใช้สีส้มแสนสดใสพร้อมกับสลักชื่อประเทศและตัวหนังสือลงไปในลูกฟุตบอล

สำหรับการแข่งขัน World Cup ที่ประเทศ Switzerland ชาติที่คว้าแชมป์ไปครองได้ก็คือ West Germany หรือเยอรมันตะวันตกนั่นเอง พวกเขาเอาชนะ Hungary ไป 3-2 โดยได้ประตูจาก Max Morlock และสองประตูจาก Helmut Rahn

ปี 1958 – ลูกฟุตบอล Top Star (Host – Sweden)

World Cup 1958 เป็นครั้งแรกที่ FIFA เปิดโอกาสให้แต่ละบริษัทที่ต้องการเสนอตัวเป็นผู้ผลิตลูกฟุตบอลส่งตัวแบบที่ไม่มี Logo ใดๆทั้งสิ้น มาพร้อมกับจดหมายแสดงความเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เหล่านั้น

โดยแรกเริ่มลูกฟุตบอลที่ FIFA ทำการพิจารณามีอยู่ 102 ลูก หลังจากนั้นคณะกรรมการของ FIFA และประเทศเจ้าภาพอย่าง Sweden ร่วมกันลงคะแนนจนเหลืออยู่ 10 ลูกและเมื่อพิจารณาร่วมกันกว่า 3 ชั่วโมง “World Cup balls” ก็คือหมายเลข 55

และหมายเลข 55 ที่ได้รับเลือกเป็นลูกฟุตบอลประจำการแข่งขัน World Cup 1958 ก็คือ “Top Star” ออกแบบโดยบริษัท Angelholm ของประเทศ Sweden ซึ่งแต่ละประเทศที่ร่วมการแข่งขันจะได้ Top Star ชาติละ 30 ลูก

ใน Wor;d Cup ครั้งนี้ได้เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับชาติมหาอำนาจในวงการลูกหนังในยุคปัจจุบันอย่าง Brazil โดยเอาชนะชาติที่สร้างความเซอไพรส์จากทวีปยุโรปอย่าง Sweden ไป 5-2 จากการยิงคนละ 2 ประตูของ Vava และตำนานที่ยังมีลมหายใจอย่าง Pele

ปี 1962 – ลูกฟุตบอล Crack (Host – Chile)

เมื่อ World Cup ไปจัดที่ทวีปอเมริกาใต้อย่างประเทศ Chile ลูกฟุตบอลประจำการแข่งขันจึงมีการออกแบบที่แปลกตาขึ้น ด้วยการตัดเย็บที่แหวกแนวกว่าครั้งก่อนๆพร้อมตั้งชื่อให้แบบสุดเก๋ว่า “แคร็ค” (Crack)

แต่ด้วยปัญหาเรื่องมาตรฐานของการผลิตเจ้า Crack จึงทำให้หลายทีมโดยเฉพาะในยุโรปร่วมกันต่อต้านไม่ใช้ลูกฟุตบอล Crack ในการแข่งขัน World Cup 1962 จนในที่สุด FIFA จึงต้องแก้ปัญหาด้วยการนำ “Top Star” ลูกฟุตบอลที่ใช้ใน World Cup 1958 มาใช้อีกครั้ง

ถ้าเพื่อนๆอ่านมาถึงตรงจุดนี้จะเห็นความแตกต่างเรื่องรูปภาพที่ผู้เขียนเอามาประกอบบทความว่ารูปหลังสุดเริ่มเป็นภาพสี โดยก่อนหน้านี้ยังเป็นภาพขาวดำ…..

ใช่แล้วครับ!! ยุคดั้งเดิมหรือยุค Classic ได้ผ่านไปแล้ว เดี๋ยวบทความหน้าผู้เขียนจะพาเพื่อนๆไปสู่ World Cup ยุคกลางกันบ้าง รอติดตามชมว่าจะมี World Cup balls แบบไหนที่น่าสนใจรอเพื่อนๆอยู่

บทความที่น่าสนใจ : https://www.thekooroo.com/content/

Leave a Reply