Olympic Games : เวทีแจ้งเกิดของเหล่าแข้งดัง

Olympic Games เป็นมหกรรมกีฬาที่นักกีฬาจากทั่วทุกสารทิศอยากจะมีโอกาสได้ไปสัมผัสสักครั้งหนึ่งในชีวิต โดยการแข่งขัน Olympic ถูกมองว่าเป็นการแข่งขันกีฬาที่สำคัญที่สุดของโลก และในแต่ละครั้งก็จะมีนักกีฬากว่าพันคนจากกว่า 200 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมการแข่งขันในหลากหลายชนิดกีฬา

Olympic Games เป็นที่รวมตัวกันของเหล่า SuperStars

อย่างที่เกริ่นกันไปครับ ในเมื่อเป็นเวทีที่นักกีฬาทุกคนอยากจะมา จึงไม่น่าแปลกใจที่มีจำนวนไม่น้อยเป็นนักกีฬาที่โด่งดังและมีชื่อเสียงอยู่แล้วอยากจะมาเพิ่มเกียรติยศให้กับตนเอง เพราะฉะนั้นบางชนิดกีฬาจึงเป็นการรวมตัวกันของบรรดาเหล่า SuperStars ในวงการ ที่โดยปกติแล้วก็จะโลดแล่นอยู่ในเส้นทางสายนักกีฬาอาชีพและแฟนๆทั่วทุกมุมโลกรู้จักคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น

  • Andy Murray นักกีฬาเทนนิสชาวอังกฤษที่คว้าเหรีญทองใน Olympic 2016 ซึ่งเคยแตะไปถึงจุดสูงสุดคือครองอันดับหนึ่งของโลกในการจัดอันดับของสมาพันธ์นักเทนนิสชาย (Association of Tennis Professionals : ATP) มาแล้ว
  • Michael Phelps นักกีฬาว่ายน้ำชื่อดังชาวอเมริกันที่ได้รับเหรียญรางวัล Olympic ถึง 28 เหรียญ (แบ่งเป็น 23 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง) ทำสถิตินักกีฬาที่ได้รับเหรียญทอง Olympic มากที่สุดในโลก
  • ทีมบาสเกตบอลทีมชายจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่รวมเหล่าดาวดังที่แฟนชาวไทยคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีจากลีกบาสเกตบอลอาชีพในอเมริกา (National Basketball Association : NBA) ไม่ว่าจะเป็น LeBron James, Kevin Durant, James Harden, Kevin Love และ ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือบุรุษผู้ล่วงลับอย่าง Kobe Bryant ที่ช่วยกันคว้าเหรีญทองใน Olympic 2012

เวทีแจ้งเกิดของเหล่าบรรดาดาวรุ่งพุ่งแรง

นอกเหนือจากนักกีฬาที่มีชื่อเสียงกันอยู่แล้ว อีกมุมหนึ่งก็จะมีบางกีฬาที่ทางคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International Olympic Committee : IOC) กำหนดเงือนไขไว้อย่างชัดเจนในเรื่องของการจำกัดอายุของนักกีฬา (ซึ่งต้องมีอายุไม่เกิน 23 ปี) ทำให้แต่ละประเทศไม่สามารถนำนักกีฬาที่ฝีมือดีที่สุดมาแข่งขันได้ จึงต้องเน้นหนักในการนำนักกีฬาดาวรุ่งมาทำการแข่งขันกัน นั่นก็คือกีฬาฟุตบอล

การแข่งขันฟุตบอล Olympic เริ่มขึ้นครั้งแรกในฤดูร้อนปี 1900 โดยกำหนดให้นักกีฬามาจากนักฟุตบอลสมัครเล่นเท่านั้น แต่หลังจากนั้นเกือบหนึ่งศตวรรษ คณะกรรมการโอลิมปิกสากลก็อนุญาตให้นักฟุตบอลอาชีพสามารถลงแข่งขันใน Olympic Games ได้ ดังนั้นกีฬาฟุตบอลจึงต้องเปลี่ยนกฎขึ้นมาใหม่เพื่อรักษาความสมดุลในด้านต่างๆ โดยสรุปใจความสำคัญคือ

“ฟุตบอลทีมชายจะต้องมีอายุต่ำกว่า 23 ปี และอนุญาตให้แต่ละทีมมีผู้เล่นที่อายุเกินได้ 3 คนเท่านั้น จากจำนวนรายชื่อผู้เล่น 18 คน ที่ส่งมา”

ในเมื่อกฏของทาง IOC กำหนดมาอย่างนั้น ฟุตบอลในกีฬา Olympic มีความสนใจน้อยลงไปโดยสิ้นเชิง เพราะนักฟุตบอลอาชีพที่มีชื่อเสียงอยู่ทั่วทุกมุมโลกต้องเป็นคนที่อายุไม่เกิน 23 ปี และนอกจากนี้ช่วงเวลาในการแข่งขัน Olympic Games เป็นช่วงที่ลีกยักษ์ใหญ่ของประเทศต่างๆเปิดฤดูกาลแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Premier League (England), Bundesliga (Germany), Calcio Seria A (Italy), La Liga (Spain) จึงทำให้สโมสรต่างๆเป็นฝ่ายตัดสินใจชี้ขาดได้ว่าจะปล่อยให้ผู้เล่นในสังกัตของตนเองไปเล่นระดับทีมชาติใน Olympic หรือไม่?!?!

เพราะฉะนั้น การแข่งขันฟุตบอลใน Olympic แต่ละครั้ง แฟนบอลจะได้เห็นแข้งดาวรุ่งที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักมาร่วมโม่แข้งกันอย่างดุเดือดเพื่อชิงเหรียญทอง แต่ก็นั่นแหละครับ…. นี่คือเวทีเล็กๆที่ได้กำเนิดเหล่าซุปดาร์มาเพียบ! เวทีนี้เป็นบันไดก้าวแรกที่สามารถสร้างชื่อเสียงและเกียรติยศให้กับแข้งดังในปัจจุบันมากมาย

– Olympic 1992 (Barcelona, Spain)

ใน Olympic 1992 ที่ประเทศสเปน ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีการจำกัดอายุของนักเตะที่เข้าร่วมการแข่งขัน เรียกได้ว่าเปลี่ยนจากแข้งระดับ Senior ที่เก๋าประสบการณ์ มาเป็น Junior ที่พร้อมเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ล้ำค่าแทน

ซึ่งเหล่าบรรดาดาวดังที่แจ้งเกิดจาก Olympic ครั้งนี้มีหลายคน แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ “Pep Guardiola” กองกลางพันธุ์ดุเจ้าถิ่นที่ปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมของสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง Manchester City ในศึก Premier League

นอกจากนั้นยังมีนักเตะที่ทุกคนคุ้นหูกันเป็นอย่างดี

  • Giuseppe Favalli, Dino Baggio, Angelo Peruzzi (Italy)
  • Santiago Canizares, Luis Enrique (Spain)

– Olympic 1996 (Atlanta, USA)

ใน Olympic 1996 หลายฝ่ายเรียกว่า ประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลต้องเปลี่ยนไป เมื่อทีมชาติไนจีเรียทำผลงานได้อย่างน่าทึ่ง สามารถเอาชนะได้ทั้งบราซิลและอาร์เจนตินาคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ นักเตะชุดนั้นนำทีมโดยสองผู้เล่นจอมเทคนิคอย่าง Jay-Jay Okocha และ Nwankwo Kanu ที่ต่อมารายหลังจะมาโด่งดังสุดๆกับสโมสร Arsenal ในศึก Premier League

นอกจากนั้นยังมีนักเตะที่ทุกคนคุ้นหูกันเป็นอย่างดี

  • Javier Zanetti, Hernan Crespo, Roberto Ayala (Argentina)
  • Claude Makelele, Robert Pires (France)
  • Raul Gonzalez, Fernando Morientes (Spain)
  • Fabio Cannavaro, Gianluigi Buffon (Italy)

– Olympic 2000 (Sydney, Australia)

ใน Olympic 2000 ความยิ่งใหญ่ของตัวแทนจากทวีปแอฟริกายังไม่จางหาย ทีมชาติแคเมอรูนสามารถหักปากกาเซียนจากหลายสำนักมาวินแซงเข้าป้ายคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ โดยการเอาชนะทีมเต็งหนึ่งอย่างสเปนไปได้ในนัดชิงชนะเลิศ

ดาวเด่นที่สุดของแคมเมอรูนในครั้งนั้นคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Samuel Eto’o กองหน้าจอมถล่มประตู ซึ่งต่อมาจะประสบความสำเร็จคว้าแชมป์มากมายในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับสโมสรสุดยิ่งใหญ่ของโลกไม่ว่าจะเป็น Barcelona ใน La Liga หรือ Inter Milan ใน Seria A

นอกจากนั้นยังมีนักเตะที่ทุกคนคุ้นหูกันเป็นอย่างดี

  • Gennaro Gattuso, Andrea Pirlo (Italy)
  • Xavi Hernandez, Carles Puyol (Spain)
  • Ronaldinho (Brazil)

– Olympic 2004 (Athens, Greece)

ที่มา : https://www.goal.com/th

ใน Olympic 2004 ทีมชาติอาร์เจนติน่าคว้าเหรียญทองไปได้อย่างสวยงามด้วยฟอร์มการเล่นที่เหนือชั้นตั้งแต่รอบแรกจนถึงนัดชิงชนะเลิศที่เอาชนะเพื่อนร่วมทวีปอย่างปารากวัยไปได้ 1-0 โดยการนำทีมของ Carlos Tevez, Javier Mascherano และ Javier Saviola ซึ่งเหล่าบรรดาแข้งตัวจิ๋วในวันนั้น แต่ละคนกลายเป็นตำนานในวันนี้ไปแล้ว

นอกจากนั้นยังมีนักเตะที่ทุกคนคุ้นหูกันเป็นอย่างดี

  • Daniele De Rossi, Giorgio Chiellini (Italy)
  • Ricardo Costa, Christiano Ronaldo (Portugal)
  • Stephen Appiah, Asamoah Gyan (Ghana)

– Olympic 2008 (Beijing, China)

ใน Olympic 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนได้เกิดวลีเด็ดที่ว่า “การเป็นแชมป์ว่ายากแล้ว แต่การรักษาแชมป์มันยากกว่า!!!” แต่ทัพฟ้า-ขาวทำได้ครับ…. ทีมชาติอาร์เจนติน่าคว้าเหรียญทองไปครองได้อีกหนึ่งสมัย และได้บังเกิดเด็กหนุ่มที่เป็นตำนานผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงนั่นก็คือ Lionel Messi ที่ปัจจุบันเป็นกัปตันทีมของ Barcelona ในศีก La Liga

นอกจากนั้นยังมีนักเตะที่ทุกคนคุ้นหูกันเป็นอย่างดี

  • Angel Di Maria, Sergio Aguero (Argentina)
  • Keisuke Honda, Shinji Okazaki, Shinjy Kagawa (Japan)
  • Vincent Kompany, Jan Vertonghen, Thomas Vermaelen (Belgium)

– Olympic 2012 (London, England)

ใน Olympic 2012 ทีมชาติเม็กซิโกที่ไม่ได้มี SuperStar เลย พลิกล็อกโค่นบราซิลได้ในนัดชิงชนะเลิศ ทำให้คว้าเหรียญทองไปครองได้สำเร็จ นำทัพโดย Giovani dos Santos กองกลางจอมเทคนิค และ Raul Jiminez กองหน้าจอมถล่มประตูที่ปัจจุบันค้าแข้งอยู่ใน Premier League กับสโมสร Wolverhampton Wanderers

นอกจากนั้นยังมีนักเตะที่ทุกคนคุ้นหูกันเป็นอย่างดี

  • Sadio Mane, Cheikhou Kouyate (Senegal)
  • David De Gea, Jordi Alba (Spain)
  • Daniel Sturridge, Danny Rose, Aaron Ramsey (Great Britain)
  • Mohamed Salah (Egypt)
  • Pierre-Emerick Aubameyang (Gabon)

– Olympic 2016 (Rio de Janeiro, Brazil)

ใน Olympic 2016 เจ้าภาพแบกความหวังของคนทั้งชาติ และท้ายที่สุดพวกเขาก็ทำได้สำเร็จเสียที บราซิลคว้าเหรียญทองไปได้ในการแข่งครั้งนี้ โดยเอาชนะจุดโทษเยอรมันไปได้ 5-4 ซึ่งดาวที่เจิดจรัสอย่างที่สุดก็คือ Neymar ที่เป็นคนสังหารจุดโทษคนสุดท้ายพาบ้านเกิดตัวเองคว้าแชมป์ไปได้

นอกจากนั้นยังมีนักเตะที่ทุกคนคุ้นหูกันเป็นอย่างดี

  • Julian Brandt, Serge Gnabry (Germany)
  • Marquinhos, Gabriel Jesus (Brazil)
  • Angel Correa, Giovanni Lo Celso (Argentina)
  • Bruno Fernandes (Portugal)

เชื่อว่าใน Olympic 2020 ก็ได้เกิดแข้งดาวรุ่งที่พร้อมจะก้าวขึ้นไปแตะความสำเร็จอีกหลายคน ดั่งเช่นรุ่นพี่ๆที่ทำได้ในอดีตที่ ณ ตอนนี้พวกเขาได้พุ่งทยานไปสู่จุดสูงสุดในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพเรียบร้อยแล้ว

แต่ก็อีกเช่นกัน มีนักฟุตบอลหลายต่อหลายคนที่อาจจะโด่งดังเป็นพลุแตกขึ้นมาชั่วข้ามคืนในมหกรรมกีฬาอันยิ่งใหญ่ แต่วันนี้ก็อาจจะยังแจ้งเกิดไม่ได้เสียที ประโยคที่ว่า “หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” ก็น่าจะจริง มันมีปัจจัยอีกหลายต่อหลายปัจจัยที่วัดความสำเร็จ

Olympic Games เป็นเพียงแค่ขั้นบันไดไม่กี่ขั้นที่จะพาคุณก้าวไปข้างหน้า แต่มันไม่ใช่ทั้งหมด……

หากแต่คุณหลงอยู่กับชื่อเสียงที่ได้มาโดยง่าย และใช้เงินทองที่ไหลมาเทมาแบบไม่ทันตั้งตัวอย่างมือเติบ ทุกอย่างก็อาจจะจมหายไปได้ในเร็ววันเช่นเดียวกัน ดังนั้นถ้าคุณไม่รักษาความคงเส้นคงวาในการเล่น หรือความเสมอต้นเสมอปลายในการฝึกซ้อมล่ะก็…..จบครับ……

ขอบคุณข้อมูล : https://www.thairath.co.th/sport

บทความที่น่าสนใจ : https://www.thekooroo.com/content/

Leave a Reply