Olympic Games : ประเทศที่หายสาบสูญนามว่า “Russia”

จบไปแล้วกับมหกรรมกีฬาการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Olympic Games ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีเรื่องราวน่าประทับใจและเกร็ดน่ารู้ต่างๆมากมายที่ชวนให้เราได้คลายข้อสงสัยในประเด็นต่างๆ

วันนี้ผู้เขียนนำมาฝากกัน 3 เรื่อง ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะสงสัยและไม่เคยรู้มาก่อน

1.) ประเทศ Russia ถูกห้ามแข่งขัน….. แล้ว ROC คืออะไร?

ถ้าเพื่อนๆชมการถ่ายทอดสด Olympic Games ผ่านหน้าจอโทรทัศน์ เพื่อนๆอาจจะสงสัยกับการเรียกชื่อทีมหนึ่งของนักกีฬานั่นก็คือ “คณะกรรมการโอลิมปิกรัสเซีย” หลายคนถึงกับมีเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่อยู่ในหัวว่า….. แล้วพวกเขาไม่ใช่ตัวแทนประเทศ Russia หรอ?!?!

คำตอบคือใช่ครับ นักกีฬาทั้งหมด 335 คนเป็นตัวแทนของประเทศ Russia แต่มาในนาม “คณะกรรมการโอลิมปิก Russia” ในการแข่งขัน Olympic Games ที่กรุงโตเกียวครั้งนี้ แล้วคำถามในหัวข้อต่อไปก็ตามมา…. แล้วทำไมถึงไม่ใช้คำว่าประเทศ Russia ล่ะ???

คำตอบคือประเทศ Russia ถูกห้ามเข้าแข่งขันในรายการสำคัญๆระดับโลกในทุกชนิดกีฬา หลังจากเกิดเรื่องราวอื้อฉาวเกี่ยวกับ “การใช้สารต้องห้ามหรือสารกระตุ้นในนักกีฬา”

ข้อหาร้ายแรงของทางการ Russia ที่วงการกีฬาโลกไม่อาจรับไหว

ย้อนกลับไปตั้งแต่ในอดีต มีกฏข้อบังคับเกี่ยวกับนักกีฬาทุกคนห้ามใช้สารต้องห้ามหรือสารกระตุ้น เนื่องจากในวงการกีฬาทุกระดับมันหมายถึงการที่คุณกำลังใช้สารหรือยาที่ถูกห้ามใช้เพื่อให้ผลงานในสนามของตัวเองดีขึ้นนั่นเอง และนั่นก็คือต้นตอของผลที่เกิดขึ้นในวันนี้

รัฐบาลของประเทศ Russia ถูกครหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการใช้สารกระตุ้นให้กับนักกีฬาของตนเอง ซึ่งนั่นหมายความว่า รัฐบาล Russia มีส่วนร่วมในการวางแผนช่วยให้นักกีฬาใช้สารต้องห้ามผิดกฎหมายเพื่อชื่อเสียงของประเทศ และผลปรากฏว่ามันคือเรื่องจริง ถึงแม้ทางการ Russia จะปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆในการสนับสนุนการใช้สารกระตุ้นในหมู่นักกีฬา แต่เรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับได้จากวงการกีฬาโลก

เรื่องนี้ทำให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International Olympic Committee: IOC) แบนนักกีฬาจากประเทศ Russia ไม่ให้ลงแข่งขันกรีฑาในฐานะประเทศตั้งแต่ปี 2015 และต่อมายังถูกห้ามลงแข่งขันในกีฬา Olympic Games ฤดูหนาวปี 2018 ในประเทศเกาหลีใต้อีกด้วย

คำตัดสินที่เป็นจุดเปลี่ยนของ Olympic Games 2020

และผลการตัดสินที่ประชากรชาว Russia ไม่อยากฟังก็มาถึง…. ในปี 2019 ทาง IOC ร่วมกับองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (World Anti-Doping Agency: WADA) ได้ลงมติเอกฉันท์ห้าม Russia เข้าร่วมการแข่งขัน Tokyo 2020 Olympic Games จากการที่ประเทศ Russia ปกปิดการตรวจสอบการใช้สารกระตุ้นของนักกีฬา

เพราะฉะนั้นชื่อประเทศ, ธงชาติ และเพลงชาติของ Russia จึงไม่ได้รับอนุญาตให้ปรากฏอยู่ในการแข่งขัน Olympic Games และ Paralympic Games ในครั้งนี้ และยังรวมไปถึงกีฬา Olympic ฤดูหนาวในกรุงปักกิ่งของจีนในปี 2022 ที่จะถึงนี้อีกด้วย

ข้อสำคัญที่แฟนๆทั่วโลกอยากรู้มากที่สุดคือ ถ้า Russia ผ่านเข้ารอบสุดท้าย World Cup 2022 ที่จะจัดการแข่งขันที่ประเทศ Qatar ในปีหน้าจะทำอย่างไร? ซึ่งคำตอบก็คือพวกเขาต้องเข้าแข่งขันโดยใช้ชื่ออื่นแทน!!

แต่ทาง IOC ก็ยังยึดถึงความถูกต้องชอบธรรมอยู่บ้าง โดยอนุญาตให้นักกีฬาจากประเทศ Russia ยังคงเข้าร่วมการแข่งขันได้ แต่ไม่ใช้คำว่า “ประเทศ” ให้ใช้คำว่า คณะกรรมการโอลิมปิก Russia (Russian Olympic Committee) หรือที่เรียกชื่อย่อว่า ROC แทน โดยนักกีฬาทั้งหมดของทีม ROC คือนักกีฬาที่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ว่า พวกเขาไม่ได้มีส่วนพัวพันในการใช้สารกระตุ้นแต่อย่างใด

ข้อกำหนดของทีม Russian Olympic Committee หรือ ROC

ในเรื่องข้อบังคับและข้อกำหนดต่างๆจะมีความรัดกุมเป็นพิเศษ

  • นักกีฬาทุกคนของ Russian Olympic Committee (ROC) ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการแข่งขันได้ตราบใดที่พวกเขาเข้าแข่งขันในชื่ออื่น และถ้าหากท้ายที่สุดพวกเขาได้รับเหรียญทอง ก็จะไม่มีการเปิดเพลงชาติ Russia และการเชิญธงชาติ Russia แต่อย่างใด แต่จะเป็นการเปิดเพลงประจำการแข่งขันแทน
  • นอกจากนี้ทางคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International Olympic Committee: IOC) ยังระบุไว้อย่างชัดเจนว่าสัญลักษณ์ของทีม ROC ต้องแยกออกจากธงชาติ Russia อย่างสิ้นเชิง ห้ามมีความข้องเกี่ยวกันโดยเด็ดขาด และยังหมายรวมถึงอุปกรณ์หรือชุดต่างๆที่นักกีฬาสวมใส่ทำการแข่งขัน ต้องมีตัวอักษร ROC แทนที่จะใช้ชื่อเต็มว่า Russian Olympic Committee

Russia จะถูกแบนจากกีฬารายการสำคัญของโลกถึงเมื่อไหร่???

ประเทศ Russia มีกำหนดการสิ้นสุดโทษแบนเดือนธันวาคมปี 2022 โดยในขณะนี้ Russia ไม่มีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพหรือเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกใดๆ

โดยระหว่างนี้ทางการ Russia จะต้องให้ความเคารพคำตัดสินและปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ IOC บอกไว้อย่างเคร่งครัด รวมถึงจ่ายค่าปรับให้กับองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (World Anti-Doping Agency: WADA) ไปด้วย

จำนวนเหรียญรางวัลที่ ROC ทำได้ในการแข่งขันครั้งนี้

หลังจากจบการแข่งขัน ทีมคณะกรรมการโอลิมปิก Russia (Russian Olympic Committee) คว้าเหรียญรางวัลไปได้ทั้งหมด 20 เหรีญทอง 28 เหรียญเงินและ 23 เหรียญทองแดง ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ดีเลยทีเดียว ที่สำคัญนักกีฬาที่คว้าเหรียญกลับบ้านได้จารึกชื่อในประวัติศาสตร์ของกีฬา Olympic ไปเรียบร้อย

โดยเหรียญทองแรกของพวกเขาได้จาก Vitalina Batsarashkina นักกีฬายิงปืน (Shooting) ในวันที่ 25 กรกฏาคมและปิดท้ายด้วย Mariya Lasitskene จากกีฬากระโดสูงในวันที่ 7 สิงหาคม

รายชื่อนักกีฬา ROC ที่มีความโดดเด่นและคว้าเหรียญทองได้ใน Olympic Games 2020

1.) Albert Batyrgaziev – กีฬาต่อยมวย (Boxing)

2.) Denis Ablyazin, David Belyavskiy, Artur Dalaloyan, Nikita Nagornyy – กีฬายิมนาสติก (Gymnastics)

3.) Evgeny Rylov – กีฬาว่ายน้ำ (Swimming)

4.) Andrey Rublev, Anastasia Pavlyuchenkova – กีฬาเทนนิสคู่ผสม (Tennis: Mixed doubles)

5.) Vlada Chigireva, Marina Goliadkina, Svetlana Kolesnichenko, Polina Komar, Alexandra Patskevich, Svetlana Romashina, Alla Shishkina, Maria Shurochkina – กีฬาระบำใต้น้ำทีมหญิง (Artistic Swimming)

2.) Taiwan กับการใช้ชื่อ Chinese Taipei ใน Olympic Games

ในการแข่งขัน Olympic ก่อนหน้านี้ในปี ค.ศ.1964 ที่กรุงโตเกียว ตัวแทนนักกีฬาจากประเทศ Taiwan ยังใช้ชื่อประเทศตนเองเข้าร่วมการแข่งขันได้ แต่ในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น…..

นักกีฬาจากประเทศ Taiwan ต้องใช้ชื่อว่า “Chinese Taipei” ซึ่งไม่ได้เป็นชื่อประเทศที่มีอยู่จริง ส่วนธงที่ใช้มีรูปดวงอาทิตย์สีขาวบนวงกลมสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่นำมาจากธงชาติของประเทศ Taiwan เอง นอกจากนี้ยังมีรูปสัญลักษณ์ห่วง Olympic 5 ห่วงล้อมด้วยกรอบที่เป็นรูปดอกพลัมหรือดอกบ๊วย ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศ Taiwan นั่นเอง

ABC Australia ซึ่งเป็น Website สำนักข่าวชื่อดังได้ระบุเรื่องนี้ไว้ว่า การที่เป็นเช่นนี้สืบเนื่องมาจากการตกลงกันเมื่อหลายสิบปีก่อน โดยประเทศจีน (Chiana) ได้มีการพิจารณาว่าไต้หวัน (Taiwan) ไม่ถือว่าเป็นประเทศ จึงได้ทำข้อตกลงกันตามมติที่รู้จักกันในชื่อว่า “มตินาโงย่า” (Nagoya Resolution) ซึ่งจะอนุญาตให้นักกีฬาจากประเทศ Taiwan เข้าแข่งขันในรายการกีฬาระหว่างประเทศได้ แต่ห้ามใช้ชื่อ, ธงชาติและเพลงชาติของตัวเองในการเข้าร่วมการแข่งขัน

3.) นักกีฬาทีม “ผู้ลี้ภัย” ในกีฬา Olympic

นี่เป็นครั้งที่สองในประวัคิศาสตร์ Olympic Games ที่มีทีมผู้ลี้ภัยเข้าร่วมการแข่งขัน โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในนคร Rio de Janeiro ประเทศ Brazil เมื่อ 5 ปีก่อน และเพิ่มจำนวนจาก 10 คน เป็น 29 คน โดยในปีนี้จะเป็นปีแรกที่มีนักกีฬาผู้ลี้ภัยคนพิการเข้าแข่งขันใน Paralympic Games ฐานะทีมผู้ลี้ภัย (Refugee Paralympic Team) ด้วย

ในการแข่งขันกีฬา Olympic มีนักกีฬามากกว่า 11,000 คนจาก 206 ประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน แต่มีหนึ่งทีมที่เป็นการรวมนักกีฬาจาก 11 ประเทศ ซึ่งนั่นก็คือ “ทีม Olympic ผู้ลี้ภัย (Refugee Olympic Team)” โดยนักกีฬาเหล่านี้กำลังลี้ภัยอยู่ในประเทศเจ้าภาพ

ซึ่งจุดเริ่มต้นเกิดขึ้นในปี 2015 โดยคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International Olympic Committee: IOC) ได้ตั้งกองทุนฉุกเฉินผู้ลี้ภัย (Refugee Emergency Fund) ขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือในการนำผู้ลี้ภัยเข้าแข่งขัน Olympic Games

ซึ่งนักกีฬา 29 คนที่ลงแข่งขันในนามทีม Olympic ผู้ลี้ภัยครั้งนี้ มาจากหลากหลายประเทศไม่ว่าจะเป็น Syria, Republic of the Sudan, Congo, Venezuela, Iran, Afghanistan และ Cameroon โดยแข่งขันใน 12 ชนิดกีฬา ได้แก่ กรีฑา, แบดมินตัน, มวย, เรือแคนู, จักรยาน, ยูโด, คาราเต้, เทควันโด, ยิงปีน, ว่ายน้ำ, ยกน้ำหนักและมวยปล้ำ

ผู้ลี้ภัย หมายถึงผู้ที่ถูกบังคับหรือต้องออกจากประเทศของตัวเอง เพื่อหลบหนีสงคราม, การไล่ล่าสังหาร หรือภัยธรรมชาติ แต่ละปีมีผู้คนหลายล้านคนจากทั่วทุกมุมโลกที่ต้องหนีออกจากประเทศของตัวเอง เพื่อไปใช้ชีวืตอยู่ในประเทศอื่นเพื่อสามารถดำรงชีวิตรอดต่อไปได้

ขอบคุณข้อมูล : https://www.bbc.com/thai

บทความที่น่าสนใจ : https://www.thekooroo.com/content/

Leave a Reply