กลับมาโม่แข้งกันอีกครั้งสำหรับฟุตบอล Premier League ลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ ลีกที่ไม่ใช่เป็นที่นิยมเพียงแค่เฉพาะแค่แฟนบอลชาวไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นลีกที่มีคนติดตามกันอยู่ทั่วทุกมุมโลก
สไตล์การเล่นที่เร้าใจและชวนตื่นตาตื่นใจตลอด 90 นาที แถมนักฟุตบอลแต่ละคนก็ค่อนข้างมีอิทธิพลในสังคมโลกไม่น้อยจึงไม่น่าแปลกใจว่า Premier League คือลีกอันดับหนึ่งในใจของแฟนบอลทุกเพศทุกวัย และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญอาจเป็นเพราะอังกฤษเป็นประเทศผู้ให้กำเนิดกีฬาชนิดนี้ขึ้นมาด้วยก็เป็นได้
เปลี่ยนชื่อจาก Division 1 มาเป็น Premier League กว่าสามทศวรรษ
อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่า Premier League ก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 ของการแข่งขันนับตั้งแต่เริ่มจัดการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ.1992 ซึ่งในฤดูกาลนั้นพลพรรค “Red Devil” คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ หลังจากนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเรื่อยๆ เรียกได้ว่ามีกฏกติกาและข้อกำหนดเพิ่มเข้ามาตามกาลเวลา
โดยฤดูกาลนี้จะถือว่าเป็นฤดูกาลที่สองที่จะมีช่วงพักการแข่งขันในฤดูหนาวช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และเป็นฤดูกาลที่สามที่จะนำเทคโนโลยี Video Assistant Referee หรือ VAR มาใช้ และในฤดูกาลนี้แฟนบอลจะได้กลับเข้ามาชมเกมในสนามอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปกว่าปีเศษเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19
โดยกำหนดการแข่งขันจะเริ่มตั้งแต่ 13 สิงหาคม 2021 จนถึง 22 พฤษภาคม 2022
บทสรุปสั้นๆจากฤดูกาลที่ผ่านมา
- ทีมแชมป์ : Manchester City
- ทีมที่ได้แข่งขัน UEFA Champion League : Manchester City (ทีมแชมป์), Manchester United (รองแชมป์), Liverpool (ทีมอันดับ 3), Chelsea (ทีมอันดับ 4)
- ทีมที่ได้โควตา UEFA Europa League : Leicester City (ทีมอันดับ 5), West Ham United (ทีมอันดับ 6)
- ทีมที่ได้โควตา UEFA Europa Conference League : Tottenham Hotspur (ทีมอันดับ 7)
- ทีมตกชั้น : Fulham (ทีมอันดับ 18), Westbromwich Albion (ทีมอันดับ 19), Sheffield United (ทีมอันดับ 20)
- ทีมที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ Premier League : Norwich City, Watford, Brentford
- สรุปอันดับดาวซัลโว
1.) Harry Kane (Tottenham Hotspur) – 23 ประตู
2.) Mohamed Salah (Liverpool) – 22 ประตู
3.) Bruno Fernandes (Manchester United) – 18 ประตู
Premier League ฤดูกาล 2021/22 กับเรื่องราวน่ารู้ของแต่ละสโมสร
ศึก Premier League มีสโมสรร่วมการแข่งขันทั้งหมด 20 ทีม โดยเสน่ห์ที่เห็นได้ชัดที่สุดในยุคหลังๆคือการที่ทีมเล็กๆสามารถสู้กับทีมใหญ่ๆได้อย่างสูสีและถึงขนาดมีอยู่หนึ่งทีมก้าวไปคว้า Trophy มาได้แล้ว นั่นก็คือสโมสร Leicester City ที่เคยคว้าแชมป์ลีกได้ในฤดูกาล 2015/2016 ทั้งๆที่ในฤดูกาลก่อนนั้นต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นอยู่เลย
เรามาทำความรู้จักทั้ง 20 สโมสรที่จะทำการแข่งขันฤดูกาล 2021/22 ให้มากขึ้นกันดีกว่า
Arsenal
Arsenal เป็นอีกหนึ่งทีมที่ห่างหายความสำเร็จไปนานมากใน Premier League นับตั้งแต่ยุคแชมป์ไร้พ่ายในฤดูกาล 2004/2005
ณ วันนี้ตกต่ำถึงขีดสุด เพราะในฤดูกาลที่ผ่านมาทำได้ดีที่สุดเพียงแค่อันดับ 8 ในลีก อดไปเล่นในถ้วยฟุตบอลสโมสรยุโรปทุกรายการ และนับว่าเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปีเลยทีเดียว
- Manager : Mikel Arteta
- Captain : Pierre-Emerick Aubameyang
- Shirt Sponsor : Emirates
- Stadium : Emirates Stadium
- Capacity : 60,704
Aston Villa
ถ้าหากพูดถึงสโมสรที่มีการเสริมทัพในช่วงปิดฤดูกาลได้น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด ทุกคนคงต้องยกให้กับ Aston Villa เนื่องจากซื้อผู้เล่นดีๆมาแล้วหลายคน ไม่ว่าจะเป็น Emiliano Buendía ปีกจอมพริ้วทีมชาติ Argentina, Danny Ings กองหน้าดีกรีทีมชาติ England, Ashley Young กองหลังที่เพิ่งคว้าแชมป์ Seria A มากับ Inter Milan ในฤดูกาลที่แล้ว
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเสีย Jack Grealish กัปตันทีมตัวเก่งไปให้กับ Manchester City แต่ด้วยขุมกำลังที่มีอยู่ก็ยังถือว่าน่ากลัวไม่น้อย
- Manager : Dean Smith
- Captain : Tyrone Mings
- Shirt Sponsor : Cazoo
- Stadium : Villa Park
- Capacity : 42,682
Brentford
ทีมน้องใหม่ทีมสุดท้ายที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาก็คือ Brentford โดยการเอาชนะ Swansea City ในการ Play-off นัดชิงชนะเลิศมาได้ ถึงแม้ว่าผู้เล่นจะเป็นนักเตะไม่มีชื่อเสียงแต่รับประกันการเล่นกันเป็นทีม
- Manager : Thomas Frank
- Captain : Pontus Jansson
- Shirt Sponsor : Hollywoodbets
- Stadium : Brentford Community Stadium
- Capacity : 17,250
Brighton & Hove Albion
“เจ้านกนางนวล” ฉายาอันแสนจะน่ารักของ Brighton & Hove Albion แต่นักเตะที่พวกเขามีอยู่ก็ไม่ใช่ธรรมดา นำทัพด้วยอดีคเด็กหงส์และเด็กผีอย่าง Adam Lallana และ Danny Welbeck
- Manager : Graham Potter
- Captain : Lewis Dunk
- Shirt Sponsor : American Express
- Stadium : Falmer Stadium
- Capacity : 31,800
Burnley
Burnley เป็นอีกหนึ่งทีมที่ขึ้นชื่อเรื่องการเอาตัวรอดให้อยู่บนลีกสูงสุดได้เก่งมากๆ ภายใต้การคุมทีมของ Sean Dyche กุนซือมากฝีมือที่เล่นฟุตบอลสไตล์อังกฤษดั้งเดิมขนานแท้ คือมีกองหน้าตัวสูงใหญ่ไว้เบียดชนกับกองหลังเป็นคนโหม่งทำทางให้เพื่อนวิ่งแทรกเข้ามาทำประตู
- Manager : Sean Dyche
- Captain : Ben Mee
- Shirt Sponsor : Spreadex Sports
- Stadium : Turf Moor
- Capacity : 21,944
Chelsea
ก่อนเปิดฤดูกาล Chelsea ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นตัวสอดแทรกในการคว้าแชมป์ Premier League ในฤดูกาลนี้ได้ เพราะปีที่แล้วทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยการคว้าแชมป์ฟุตบอล UEFA Champion League ไปครองได้
- Manager : Thomas Tuchel
- Captain : César Azpilicueta
- Shirt Sponsor : Three
- Stadium : Stamford Bridge
- Capacity : 40,834
Crystal Palace
ฤดูกาลนี้ Crystal Palace มีการเปลี่ยนแปลงทีมโดยการเปลี่ยนหัวเรือใหญ่ เนื่องจากกุนซือคนเก่าอย่าง Roy Hodgson ประกาศเลิกคุมทีมและขอกลับไปใช้เวลากับครอบครัว สโมสรจึงได้ทำการแต่งตั้ง Patrick Viera อดีตกองกลางพันธุ์ดุของ Arsenal เข้ามาคุมทีมแทน บอกเลยว่าน่าดูสไตล์ไม่น้อยว่าจะดุเด็ดเผ็ดมันส์ขนาดไหน!
- Manager : Patrick Viera
- Captain : Luka Milivojević
- Shirt Sponsor : W88
- Stadium : Selhurst Park
- Capacity : 25,486
Everton
Everton เป็นอีกหนึ่งทีมที่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้จัดการทีม และคนที่มาแทน Carlo Ancelotti ที่โยกไปคุมสโมสร Real Madrid ใน La Liga ก็มีความน่าสนใจไม่น้อย นั่นก็คือ “กุนซือสมองเพชร” อย่าง Rafael Benitez ที่เคยพา Liverpool คว้าแชมป์ UEFA Champion League มาแล้วในปี 2005
- Manager : Rafael Benitez
- Captain : Seamus Coleman
- Shirt Sponsor : Cazoo
- Stadium : Goodison Park
- Capacity : 39,414
Leeds United
Leeds United เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดเมื่อสองฤดูกาลก่อน โดยพวกเขาอยู่รอดปลอดภัยได้อย่างสบายๆ เนื่องจากสไตล์การเล่นที่ดุดัน กล้าได้กล้าเสีย ยิงได้เยอะแต่ก็เสียประตูเยอะ จึงทำให้แฟนบอลส่วนใหญ่ชอบดู Leed United เล่นเพราะเป็นบอลสมัยใหม่ บวกกับแฟนบอลยุคเก่าหน่อยที่คอยตามลุ้นตามเชียร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงทำให้ “ยูงทอง” มีแฟนบอลในบ้านเราไม่น้อยเลยทีเดียว
- Manager : Marcelo Bielsa
- Captain : Liam Cooper
- Shirt Sponsor : SBOTOP
- Stadium : Elland Road
- Capacity : 37,792
Leicester City
“จิ้งจอกสยาม” Leicester City ยังคงมีฟอร์มการเล่นที่เสมอต้นเสมอปลายต่อเนื่อง ซึ่งต่อยอดมาจากการคว้าแชมป์ Premier League 2015/16 มาได้ เมื่อฤดูกาลที่แล้วยังสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอล FA Cup ฟุตบอลถ้วยรายการที่เก่าแก่ที่สุดในโลกมาได้ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรอีกด้วย
แถมฤดูกาลนี้ยังคงได้ไปโลดแล่นในถ้วย UEFA Europa League เป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน ต้องมาเอาใจเชียร์กันว่าจะไปได้ไกลกว่าเดิมหรือไม่
- Manager : Brendan Rodgers
- Captain : Kasper Schmeichel
- Shirt Sponsor : FBS
- Stadium : King Power Stadium
- Capacity : 32,312
เดี๋ยวบทความหน้าผู้เขียนจะพาเพื่อนๆไปพบกับอีก 10 สโมสรที่เหลือ พร้อมยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจของเทคโนโลยี Video Assistant Referee (VAR) มาฝากกัน รอติดตามชมกันนะครับ
ขอบคุณข้อมูล : https://en.wikipedia.org/
ทความที่น่าสนใจ : https://www.thekooroo.com/content/